วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2554

นางสิกขี(เปลือย) หลังยันต์ ห่วงบน


                      นางสิกขี(เปลือย) เนื้อผงพุทธคุณ 108 ผงว่าน 108 ผงสรรพยา 108 คลุกรัก และ ลงรักปิดทองพองาม องค์นี้ไม่จุ่มรักครับ


ยันต์ เฑาะว์ใหญ่ ทั้งหน้าและหลัง ห่วงบน ไม่ฝังกริ่ง ครับ


                             ดูใบหน้าชัด ๆ ครับ หลายคนไปเรียกเครื่องรางพิมพ์นี้ว่า อีเป๋อหรือแม่เป๋อก็แล้วแต่จะพากันเรียก แต่ศิษย์สุริโยมีความเห็นต่าง เพราะว่าดูลักษณะหน้าตาของท่าน มีการสรวมมงกุฏหรือชฎาที่ศรีษะ ที่หูทั้งสองข้างมีกรรเจียกหรือจอนหูรวมทั้งที่ลำคอสรวมสร้อยคอหรือนวมนาง จึงไม่น่าจะเป็นคนธรรมดา เช่น อีเป๋อ หรือไอ้งั่ง แต่น่าจะเป็นพระหรือเป็นนางในวรรณคดี นะครับ เพราะมีองค์ประกอบของหน้านางในวรรณคดีครบถ้วน จึงอาจจะเรียกให้เต็ม ๆ ก็ได้ว่า พระนางสิกขี จึงจะถูกต้องครับ เพียงแต่ว่าพิมพ์นี้ไม่มีเครื่องนุ่งห่ม(ไม่ทรงเครื่อง) เป็นพิมพ์เปลือยทั้งท่อนบนและล่างครับ  ดูแล้วสวยซึ้งและต้องดูให้เป็นแบบศิลปะครับ ส่วนเนื้อและมวลสารจัดมาก เก่าถึงยุคจริง ๆ  ฝีมือการออกแบบ แกะบล๊อค ผสมมวลสาร และ ปลุกเสกเดี่ยว โดย หลวงพ่อสังข์ สุริโย วัดนากันตม หรือ พระครูอุดมวรเวทซึ่ง แปลว่า พระเกจิอาจารย์ ผู้อุดมด้วย เวทย์มนต์ คาถาอาคม ที่เป็นเลิศ


                      ส่วนที่เขาเรียกกันว่า อีเป๋อ หรือ คุณอีเป๋อ ต้องพิมพ์แบบนี้ครับ  ดูลักษณะท่านั่งของแม่คุณซิครับเปิดเผยแบบสุด ๆ ไปเลยครับ แถมยังลอยหน้าลอยตาเป็น ลำตัดแม่ประยูร อีกต่างหาก ซึ่งไม่ว่าใคร ก็แล้วแต่ ดูแล้วก็ไม่มีทางที่จะไปเรียกเป็นอย่างอื่น เช่นว่า นางเป๋อหรือพระนางเป๋อได้เลยครับพี่น้อง

วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2554

นางสิกขี(เปลือย) หลังยันต์ ห่วงหลัง


                         นางสิกขี(เปลือย) เนื้อผงพุทธคุณ ผสมครั่งและผงว่าน 108 คลุกรัก และจุ่มรักหนาอีกครั้ง ฝีมือการสร้างและปลุกเสกโดย หลวงพ่อสังข์ สุริโย วัดนากันตม อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ



                    ยันต์ เฑาะว์ใหญ่ ทั้งหน้าและหลัง ห่วงทองแดงคู่หลัง ไม่ฝังกริ่งครับ


                           สังเกตุใบหน้าของ นางสิกขี ชัด ๆ ครับ แถมองค์นี้จุ่มรักหนาปึ๊กจริง ๆ ครับ  ปัจจุบันหายากแล้วครับ ส่วนพุทธคุณ ใช้ทางด้านเมตตา มหานิยม เป็นหลักครับ