วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2556

วัตถุมงคล รุ่นสุดท้าย


                   จะมีใครสักกี่คนที่ทราบว่า วัตถุมงคลอะไรที่เป็นรุ่นสุดท้ายจริง ๆ ซึ่งหลวงพ่อ ปลุกเสกก่อนมรณะภาพเพียงไม่กี่วัน ของ พระครูอุดมวรเวท (หลวงพ่อสังข์  สุริโย) วัดนากันตม ตำบลสังเม็ก อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ  ไม่น่าเชื่อนะครับว่า เป็นผ้ายันต์ พระพุทธนิมิตร นั่นเอง 

                   การสร้างผ้ายันต์รุ่นสุดท้ายนี้ เกิดขึ้นเนื่องจาก ประมาณต้นเดือน กรกฎาคม 2526 หลวงพ่อสังข์ อาพาธ และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ สาเหตุที่ป่วยเนื่องจากหลวงพ่อโดนเม็ดฝนที่ตกค่อนข้างหนัก จากการไปรองน้ำฝนที่ตกลงมาจากฟากฟ้าในช่วงกลางฤดูฝน ซึ่งลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อเล่าว่า หลวงพ่อชอบที่จะนำบาตรพระไปรองน้ำฝนที่ตกลงมากลางแจ้ง โดยไม่ให้น้ำฝนผ่านชายคา หรือ รางน้ำ เพื่อให้ได้น้ำใสบริสุทธิ์ เพื่อนำไปเพ่งกสิณ (น้ำที่มีสีขุ่น ดำ แดง เหลือง น้ำที่ใส่ในภาชนะต่าง ๆ น้ำประปา น้ำในลำธาร ห้วย หนอง คลอง บึง หรือตักจากบ่อน้ำ ใช้ไม่ได้) เล่ากันว่า หลวงพ่อสังข์ ท่านสำเร็จ อาโปกสิณ (กสิณน้ำ)โดยการเพ่งน้ำบริสุทธิ์เพื่อทำสมาธิจิต จากการโดนเม็ดฝนที่ตกหนักคราวนี้ จึงทำให้ป่วยเป็นไข้หวัด คราวนี้อาการหนักมาก อาจเป็นเพราะหลวงพ่ออายุมากขึ้น จึงบอกให้ศิษย์เอก ซึ่งก็คือ เฮียหยวย ร้านสันติยนต์ อยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ พาไปรักษาที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ อำเภอเมืองศรีสะเกษ พอหลวงพ่อไปอยู่โรงพยาบาลอาการก็ทุเลา แต่ก็ยังไม่หายขาดหมอจึงยังไม่อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล เฮียหยวยไปเยี่ยมเกือบทุกวัน มีอยู่วันหนึ่ง หลวงพ่อบ่นให้เฮียหยวยซึ่งตอนนั้นอยู่กันสองคนกับหลวงพ่อในห้องฟังว่า อยากกลับวัดนากันตม อำเภอกันทรลักษ์ เนื่องจากคิดถึงวัด คิดถึงญาติโยมที่วัด แต่ก่อนกลับอยากจะตอบแทนคุณเฮียหยวยศิษย์เอกซึ่งคอยรับใช้หลวงพ่อมาหลายสิบปี อีกทั้งหาเงินเข้าวัดทั้ง กฐิน ผ้าป่า ก็หลายครั้ง เอารถบรรทุกขนอิฐ หิน ปูน ทราย เหล็กเส้น ไปส่งวัดโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายก็หลายครั้ง เจ็บป่วยอาพาธก็เอารถไปรับถึงวัดนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลต่าง ๆ อยู่เนือง ๆรวมทั้งคราวนี้ด้วย จึงบอกให้เฮียหยวยไปเอาบล็อคพิมพ์ผ้ายันต์ที่กุฏิหลวงพ่อที่วัดนากันตมไปพิมพ์ผ้ามาให้สัก 4 - 5 ไม้(พับ) ให้เอามาที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ หลวงพ่อจะปลุกเสกให้ที่โรงพยาบาลเลย และไม่พูดอะไรอีก 

                   เฮียหยวยกลับไปที่ร้าน ช่วงนั้นงานก็ยุ่ง ฝนก็ตกบ่อยเพราะเป็นฤดูฝน จึงไม่สะดวกและไม่มีเวลาขับรถไปเอาบล็อคที่วัดนากันตม อำเภอกันทรลักษ์ ซึ่งห่างออกไปจากโรงพยาบาล ถึง 60 กิโลเมตรเศษ หลายวันจึงไม่ได้ไปเยี่ยมหลวงพ่อ เมื่อไปเยี่ยมอีกครั้ง หลวงพ่อบ่นว่า ทำไมไม่รีบไปทำผ้ายันต์มา โดยคราวนี้ หลวงพ่อยื่นคำขาดว่าให้ทำมาให้ได้ภายในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ เพราะจะกลับวัดแล้ว เฮียหยวยจึงรีบตาลีตาเหลือกไปซื้อผ้าแดง จำนวน 5 ไม้(ห้าพับ) ไปเอาบล็อคที่วัดตามคำสั่ง แล้วรีบนำไปให้เฮียนิจ (คุณพินิจ  นาควารินทร์) เจ้าของโรงพิมพ์ศรีสะเกษการพิมพ์ ทำให้เหมือนทุกครั้ง โดยไม่ลืมกำชับว่าให้รีบดำเนินให้เสร็จภายในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ เพราะวันเสาร์จะเอาไปให้หลวงพ่อปลุกเสก เฮียนิจก็ดีใจหายเหมือนกับรู้หน้าที่ เพราะเคยใช้บริการพิมพ์ผ้ายันต์กันมาก่อนแล้วหลายครั้ง จึงรีบเร่งทำเสร็จตามกำหนด ได้ผ้ายันต์ประมาณ 500 ผืนเศษ 

                  วันรุ่งขึ้น เฮียหยวยนำผ้ายันต์ทั้งหมด ใส่กล่องกระดาษ 2 กล่องแบกไปให้หลวงพ่อสังข์ ปลุกเสกที่ห้องพิเศษของโรงพยาบาลศรีสะเกษ เฮียหยวยเล่าว่า ตอนเย็นวันนั้นหลวงพ่อสั่งให้นำกล่องผ้ายันต์ทั้ง 2 กล่อง มาวางซ้อนกันไว้ข้างเตียง หลวงพ่อลุกขึ้นนั่งบนเตียงคนป่วย หย่อนขาทั้ง 2 ข้างลงข้างเตียงใช้เท้าทั้ง 2 ข้าง เหยียบลงบนกล่องผ้ายันต์ คล้ายกับจะแผ่พลังพุทธาคมผ่านฝ่าเท้าไปยังผ้ายันต์ทั้ง 2 กล่องนั้น ต่อมาหลวงพ่อก็เข้าสมาธิอยู่ในอาการสงบนิ่ง พนมมือขึ้น หลับตาลง ร่ายเวทมนต์ คาถาอาคม เสียงดังพอสมควร ปลุกเสกเป็นเวลานานมาก ประมาณกว่าครึ่งชั่วโมงจึงหยุดและลืมตาขึ้น แล้วเอ่ยปากกับเฮียหยวยศิษย์รักซึ่งทั้งนั่งสลับนอนรอดูการปลุกเสกอยู่บนโซฟาข้าง ๆ ว่าเสร็จแล้ว คราวนี้ปลุกเสกให้เป็นพิเศษกว่าทุกครั้งให้เอากลับไปได้และกำชับให้มารับกลับวัดนากันตมในวันพรุ่งนี้

                        ฮียหยวยก็แปลกใจแต่ก็ไม่กล้าถาม เพราะได้รับวัตถุมงคลมาก็หลายครั้งแต่หลวงพ่อไม่เคยพูดอะไรเลย มาคราวนี้ย้ำนักย้ำหนาว่า ทำให้เป็นพิเศษ ให้เก็บรักษาไว้ให้ดีเพราะว่าจะไม่สร้างวัตถุมงคลใด ๆ อีกแล้ว



                   ผ้ายันต์ที่ปลุกเสกรุ่นสุดท้ายนี้ ก็คือ ผ้ายันต์พระพุทธนิมิตรบล็อคที่สร้างขึ้นตั้งแต่ เดือน ธันวาคม 2520 นั่นเอง



                        ผ้ายันต์รุ่นสุดท้ายนี้ หมึกพิมพ์ออกจะสีจางไปสักหน่อย สีสันลายเส้นและอักขระเลขยันต์อาจจะไม่คมชัดเหมือนรุ่นก่อน ๆ เพราะเฮียนิจ แกเร่งทำให้เสร็จตามกำหนดที่หลวงพ่อสั่งไว้



                   ยันต์ เฑาะว์ขัดสมาธิขึ้นยอด ซึ่งเป็นยันต์ประจำตัวของหลวงพ่อยังเด่นชัด  ล้อมรอบด้วยคาถา นะ กะ อะ ปิ  ซึ่งเป็นสุดยอดของคาถามหาเสน่ห์ และเมตตามหานิยมเป็นเลิศ ยังคงความเข้มขลัง เช่นเดิม



                 เนื่องจากผ้ายันต์บล็อคนี้ มีการพิมพ์ขึ้นมาหลายครั้ง ตั้งแต่ปี 2520 จนถึงปี 2526 คนที่สั่งพิมพ์คือเฮียหยวย คนทำคือเฮียนิจ คนที่ปลุกเสกคือ หลวงพ่อสังข์ เมื่อพิมพ์ซ้ำหลายครั้งเป็นพัน เป็นหมื่นครั้ง ทำให้บล็อคเกิดมีคราบสกปรกของหมึกพิมพ์แข็งตัวติดอยู่กับบล็อค ล้างไม่ออก จึงเกิดรอยตำหนิขึ้นในพิมพ์ ในรุ่นสุดท้ายซึ่งหลวงพ่อปลุกเสกให้เป็นพิเศษที่โรงพยาบาลนั้น มีรอยคราบสีดำติดอยู่ที่ตำแหน่งหน้าอกซ้ายขององค์พระตรงเส้นยันต์ตัดกันตามรูป



รอยตำหนิชัด ๆ ในวงกลม


                    เมื่อหลวงพ่อสังข์ปลุกเสกผ้ายันต์รุ่นสุดท้ายในวันเสาร์ ที่ 14 กรกฎาคม 2526 นี้แล้ว(วันเสาร์ ทางโหราศาสตร์ถือว่าเป็นวันแข็ง ถ้าปลุกเสกวัตถุมงคลจะเข้มขลังมากที่สุด กว่าวันอื่น ๆ ในรอบสัปดาห์ โดยเฉพาะถ้าเป็นเสาร์ 5 ถือว่าสุดยอด) วันรุ่งขึ้น คือวันอาทิตย์ที่ 15 กรกฏาคม 2526 เฮียหยวยก็เอารถไปรับหลวงพ่อก็กลับไปรักษาตัวต่อที่วัด และ ต่อมาหลวงพ่อก็มรณะภาพ ในวันพฤหัสบดี ที่ 19 กรกฏาคม 2526 เวลา 11.00 น. โดยท่านนอนตะแคงเบื้องขวา เหยียดตัวนิ่ง ดูเหมือนว่าจะเตรียมตัวพร้อมว่าท่านจะต้องละสังขารจากโลกนี้ไปแล้ว ขณะนั้นคงจะตั้งสติระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยเป็นอารมณ์หรือบทใดบทหนึ่งแน่นอน อาการจากไปของท่านจึงสงบเหมือนคนนอนหลับไม่สะดุ้งสะเทือนใดๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างจบลงแล้วทั้ง ชีวิต ภาระ หน้าที่ การงาน การสร้างวัตถุมงคล ก็สิ้นสุดลงตั้งแต่บัดนั้น

                     เฮียหยวยเมื่อทราบข่าวก็รีบไปที่วัด อาจารย์บุญมี วัดสระเกศ ก็รีบขึ้นมาจากกรุงเทพฯ เมื่อจัดการงานต่าง ๆ จนเรียบร้อยแล้ว จึงได้หวนกลับมาคิดว่าช่วงเวลาที่อยู่ที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ทำไมหลวงพ่อจึงรีบอยากกลับวัดทั้งที่อาการป่วยก็ยังไม่หาย ทำไมหลวงพ่อเร่งรัดให้รีบทำผ้ายันต์ไปให้ปลุกเสกในวันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม 2526 ซึ่งเป็นวันก่อนมรณะภาพในวันที่ 19 กรกฎาคม เพียง 5 วันให้ได้ และเมื่อปลุกเสกเสร็จแล้วยังกำชับกับศิษย์เอกว่า ให้เก็บไว้ให้ดี ทำให้พิเศษและจะไม่ทำวัตถุมงคลใด ๆ อีกแล้ว หรือว่า หลวงพ่อสำเร็จ อนาคตังสญาณ คือ เป็นญาณของผู้สำเร็จอภิญญาจิต สามารถล่วงรู้อนาคตของตัวเอง และ กำหนดวันละสังขารล่วงหน้าไว้แล้ว

                      ต่อมาผ้ายันต์รุ่นนั้น เฮียหยวย ได้แบ่งให้เฮียนิจ เจ้าของโรงพิมพ์ศรีสะเกษการพิมพ์ ซึ่งทำให้ฟรีทุกครั้งโดยไม่คิดค่าจ้าง ประมาณ 20 ผืน เก็บเอาไว้บูชากราบไหว้และไว้แจกญาติสนิท มิตรสหายของตัวเอง ประมาณ 150 ผืน ที่เหลือได้นำไปแจกในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ของ หลวงพ่อสังข์ สุริโย ที่วัดนากันตม อำเภอกันทรลักษ์ ในวันที่ 18 - 19 มีนาคม 2532  จนหมด(หรือหลวงพ่อสั่งให้ทำเตรียมไว้เพื่อแจกญาติโยมในงานพระราชทานเพลิงศพของตัวเอง)

                       ดังนั้น ใครมีผ้ายันต์ พระพุทธนิมิตร ผืนสีแดง (เท่านั้น) อยู่ในครอบครอง ก็รีบเอาออกมาคลี่ดูซะ ถ้าพบตำหนิตามที่ผู้เขียนกล่าวมาแล้ว ขอให้ท่านเก็บรักษาไว้ให้ดี เพราะว่าท่านได้ครอบครองสุดยอดวัตถุมงคลที่หลวงพ่อสังข์ ปลุกเสกและอัดพลังความศักดิ์สิทธิ์ให้เต็มที่เป็นพิเศษส่งท้ายก่อนมรณะภาพเพียง 5 วัน เจอที่ไหนอย่าปล่อยให้หลุดมือเป็นอันขาด ขอบอก