วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2557

นางสิกขี & อีเป๋อ

                       วันนี้ อยากจะนำเสนอความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง การเรียกชื่อเครื่องรางชนิดหนึ่ง ของ หลวงพ่อสังข์ ในประเด็น ความแตกต่างระหว่าง การเรียกว่า นางสิกขี กับ การเรียกว่า อีเป๋อ ตามความคิดเห็นของ ศิษย์สุริโย ให้เพื่อน ๆ ช่วยกันพิจารณานะครับ 
                                                             
                       คำว่านาง ประการแรกการที่จะเรียกว่านาง จะต้องเป็นผู้หญิงแน่ ๆ ครับ แต่ในแง่เครื่องราง ของขลัง ของหลวงพ่อสังข์นั้น น่าจะหมายถึงนางในวรรณคดีครับ ซึ่งการที่จะเป็นนางในวรรณคดีนางใดนางหนึ่ง จะต้องมีเครื่องทรงเป็นส่วนประกอบครับ แต่ที่จะกล่าวถึงในที่นี้เจาะจงเฉพาะบริเวณใบหน้า หรือที่เรียกกันว่า หน้านาง ครับ

นี่คือลักษณะและส่วนประกอบของหน้านางในวรรณคดี

 ส่วนประกอบอันแรก เรียกว่า กรอบหน้า


                   กรอบหน้าในที่นี้ หมายถึง เครื่องประดับศรีษะ รูปมงกุฎอย่างเตี้ย มีขอบหน้าผากเป็นรูป กระจัง

              ประการที่สอง เรียกว่า กรรเจียก หรือ จอนหู




                 เป็นเครื่องประดับหู ซึ่งจะต้องจำหลักลายสวยงาม ประดับหูทั้งด้านซ้ายและด้านขวา

           ประการที่สาม เรียกว่า กรองศอ หรือนวมนาง ครับ




               เป็นเครื่องประดับคอ หรือที่เราเรียกกันว่า สร้อยคอ นั่นเองครับ 
               เมื่อมีองค์ประกอบ บริเวณใบหน้าและลำคอ ครบ 3
 อย่างเราจึงเรียกกันว่า หน้านาง ครับ

               คราวนี้ มาดูเครื่องราง ของขลัง ของหลวงพ่อสังข์ สุริโย วัดนากันตม ซึ่ง ศิษย์ สุริโย เรียกว่า นางสิกขี พิมพ์ต่าง ๆ บ้างครับ




              องค์ที่ 1 นางสิกขี (ทรงเครื่อง) หลังเรียบโค้ง



          องค์ที่ 2 นางสิกขี (ทรงเครื่อง) หลังยันต์ ไม่มีห่วง



             องค์ที่ 3 นางสิกขี (เปลือย) หลังยันต์ ห่วงหลัง



              องค์ที่ 4 นางสิกขี (เปลือย) หลังยันต์ ห่วงบน



                   องค์ที่ 5 นางสิกขี (เปลือย) หลังยันต์ นะ

               นางสิกขี พิมพ์ต่าง ๆ ทั้ง 5 องค์ นั้น จะเห็นได้ว่า มีองค์ประกอบ 3 อย่าง คือ กรอบหน้า จอนหู (กรรเจียก) และ กรองศอ (นวมนาง) แต่บางพิมพ์ กรองศอ หรือสร้อยคอ อาจจะซ่อนไว้หรือกดพิมพ์ แล้วไม่ติดหรือติดไม่ชัด จึงมองไม่เห็น แต่อย่างน้อยก็มี องค์ประกอบที่เด่นชัด ถึง 2 ใน 3 ส่วน อีกทั้ง ลักษณะหน้าตาก็ใม่ใช่หญิงธรรมดา แต่บ่งบอกถึงความเป็นสตรีผู้สูงศักดิ์ จึงสมควรเรียกทั้ง 5 องค์ ว่า นางสิกขี ไม่สมควรเรียกว่า อีเป๋อ เป็นอันขาด แม้ว่าจะเป็นพิมพ์เปลือย มองเห็นเครื่องเพศก็ตาม จากการสังเกตุของผู้เขียน องค์ที่ 1 และองค์ที่ 2 เห็นเรียกกันว่า นางสิกขี ก็ถูกต้องแล้ว แต่องค์ที่ 3, 4 และ 5 กลับไปเรียกกันว่า อีเป๋อ ซึ่งผู้เขียนกลับเห็นต่าง เนื่องจาก ทั้ง 3 องค์หลัง มีองค์ประกอบและลักษณะของหน้านางครบ

              ส่วนพิมพ์ที่ ศิษย์สุริโย เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่จะให้เรียกเธอว่า อีเป๋อ หรือ คุณอีเป๋อ นั้นลักษณะต้องเป็นผู้หญิงชาวบ้านธรรมดา ๆ และหน้าตาต้องแบบนี้ครับ



                 จะเห็นได้ว่า คุณอีเป๋อ  เธอนั่งถ่างขา ลอยหน้าลอยตาเป็นลำตัดแม่ประยูร แถมหลับตาพริ้มโชว์เครื่องเพศเต็มที่ บริเวณศรีษะ ใบหน้า และลำคอ ก็ไม่มีเครื่องประดับใด ๆ ที่จะเข้าองค์ประกอบของการเป็นนางในวรรณคดีนางใด  ทั้งสิ้น ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีอาภรณ์ใด ๆ เป็นเครื่องสรวมใส่ นอกจากดอกไม้ที่ทัดหูเบื้องขวาเพียงดอกเดียวเท่านั้น อย่างนี้เรียกไปเลยครับ จะเรียกว่า อีเป๋อ หรือ คุณอีเป๋อ ก็แล้วแต่สะดวก แต่บางท่านเรียกแบบให้เกียรติิว่า แม่เป๋อ แต่ผู้เขียนก็คิดว่า ไม่น่าจะเรียกนะครับ เพราะว่าเครื่องรางที่สมควรเรียกว่า แม่เป๋อ ของหลวงพ่อสังข์ ยังมีอีก วันหลังจะค้นคว้าข้อมูลภาพถ่ายมาเผยแพร่ให้เพื่อน ๆ ได้ทราบ

                  เพื่อน ๆ ครับ ในฐานะที่พวกเราเป็นลูกศิษย์ ของหลวงพ่อสังข์ สมควรที่จะให้เกียรติหลวงพ่อในการเรียกชื่อ เครื่องราง ของขลัง แต่ละอย่างให้ถูกต้อง หรือให้ใกล้เคียงกับที่ควรจะเป็น หลวงพ่อมรณะภาพแล้ว ไม่ได้อยู่ให้ถาม อีกทั้งเครื่องรางของหลวงพ่อก็มีมากมาย หลายสิบชนิด บางคนบอกว่าอาจจะถึง ร้อยชนิด ก็เป็นได้ และปัจจุบันจะหาคนที่เก่งจริง ๆ เกี่ยวกับเรื่อง เครื่องราง ของขลัง ของหลวงพ่อสังข์ นั้นยากมากหรือแทบจะเรียกว่าไม่มีเอาเสียเลย พวกเราที่เป็นลูกศิษย์จึงควรช่วยกันค้นคว้าหาข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มเติมให้มาก ให้รอบด้าน เพื่อนำมาเป็นส่วนประกอบ ในการเรียกชื่อเครื่องรางแต่ละอย่าง ได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสมกับชื่อที่ควรจะเป็น ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้พกพาท่านในที่ไม่เหมาะสม กล่าวคือ ถ้าเป็นนางสิกขี ก็ถือว่าเป็นของสูง การพกพาก็อาจจะต้องห้อยคอหรืออย่างน้อยก็ต้องใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ แต่ถ้าเป็นอีเป๋อก็ถือว่าเป็นของต่ำ การพกพาก็ต้องคาดเอวหรือต่ำกว่าเอว เช่น พกไว้ในกระเป๋ากางเกง เป็นต้น ดังนั้น ถ้าสำคัญผิดว่าของสูงเป็นของต่ำการเคารพ กราบไหว้บูชาหรือการพกพาที่ไม่ถูกต้อง ไม่บังควร อาจจะทำให้เป็นการ ลบหลู่ เครื่องราง ของขลัง ของหลวงพ่อและเป็น บาปกรรมโดยไม่ตั้งใจ 

 
                   นางสิกขีองค์นี้ ศิษย์สุริโย ห้อยติดกับสร้อยนำขึ้นสรวมศรีษะห้อยคอ ด้วยความเคารพนับถือศรัทธาว่าท่านเป็นนาง ไม่ได้ลบหลู่ท่านด้วยการพกไว้ในกระเป๋ากางเกง หรือร้อยเชือกคาดเอาไว้ที่เอวเหมือนตะกรุด เพราะเข้าใจว่าท่านเป็นคุณอีเป๋อโดยเด็ดขาด ขอบอก


                   ส่วนคุณอีเป๋อนางนี้ ใครจะพกแบบไหน อย่างไร หรือจะยัดเอาไว้ในกระเป๋าไหนก็ได้ตามสะดวก แต่ศิษย์สุริโย จะไม่ขอนำขึ้นสรวมคอโดยเด็ดขาด ขอบอกอีกครั้ง

                   นี่เป็นเพียงความคิดเห็นของ ศิษย์สุริโย เพียงคนเดียวนะครับ ผิดถูกอย่างไรขอให้เพื่อน ๆ รับไปพิจารณาด้วยครับ โดยเฉพาะ ชมรมพระเครื่องพระบูชาจังหวัดศรีสะเกษ เวลามีประกวดเครื่องราง ของขลัง ของหลวงพ่อสังข์ ขอให้พิจารณาเรื่องชื่อของ นางสิกขี กับ อีเป๋อ ด้วยนะครับ