วันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2560

นางสิกขี(เปลือย) เนื้อโลหะสัมฤทธิ์

                
                 นางสิกขี(เปลือย) เนื้อโลหะสัมฤทธิ์สร้างและปลุกเสกโดย ราชาเครื่องรางแดนอีสานใต้ นาม พระครูอุดมวรเวท(หลวงพ่อสังข์  สุริโย) วัดนากันตม ตำบลสังเม็ก อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ


                  นางสิกขี พิมพ์นี้ หลวงพ่อออกแบบได้คลาสสิคมาก โดยวางยันต์อุณาโลมไว้ในองค์พระถึง 5 จุด อุณาโลม 2 จุดแรก วางไว้ที่หูทั้ง 2 ข้าง อุณาโลมจุดที่ 3 และ 4 วางไว้ที่ขาทั้ง 2 ข้าง ส่วนอุณาโลมจุดสุดท้าย จุดที่ 5  วางไว้ที่กลางหน้าอก


                    ส่วนด้านหลัง ปรากฎยันต์ นะ มหานิม ขึ้นยอด
 9 หยัก แทนคาถา อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ ภุ พะ



                        การสร้างพระเนื้อโลหะสัมฤทธิ์ของหลวงพ่อสังข์ นั้น เป็นการสร้างพระแบบอาศัยภูมิปัญญาชาวบ้านแบบโบราณ ที่เรียกกันว่า การหล่อพระแบบโบราณเทดินไทย ซึ่งปัจจุบันแทบจะไม่มีการสร้างพระแบบนี้แล้ว เพราะว่าขั้นตอนยุ่งยาก ใช้เวลานานและค่าใช้จ่ายสูง เนื่องจากจะต้องมีการเตรียมชนวนมวลสารตามสูตรภาคบังคับของโลหะสัมฤทธิ์ชนิดต่าง ๆ  การลงแผ่นยันต์นะ 108 เช่น ยันต์ปทุมจักร ภควัมบดี ไตรสรณาคม นวโลกุตรธรรม มงกุฏพระพุทธเจ้า บารมี 30 ทัศ โสฬสมงคล ฯลฯ จนครบ 108 นะ ต่อมาก็ต้องลง นะปถมัง 14 เช่น นะบังสมุทร นะนาคบาศก์ นะวชิราวุธ นะทน นะครอบจักรวาล นะกำจัด นะกำจาย นะล้อม ฯลฯ เป็นต้น จนครบ 14 นะ จากนั้นก็จะต้องมีความรู้ในการหาฤกษ์งามยามดีในการหล่อพระให้ถูกต้อง การหลอมโลหะแบบโบราณหลวงพ่อใช้เตาหลอมโลหะที่ทำขึ้นเอง พระอาจารย์บุญมี วัดสระเกศ เล่าให้ฟังว่าเคยเห็นหลวงพ่อสังข์ท่านหล่อพระด้วยตัวเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่การแกะบล็อค การเตรียมชนวนมวลสารซึ่งท่านมีความเชี่ยวชาญในการหล่อพระเนื้อโลหะสัมฤทธิ์มาก ท่านต้องใช้ความเพียรในการลงแผ่นยันต์ชนิดต่าง ๆ จนครบตามสูตร หรือแม้แต่การหลอมโลหะในเบ้าหลอม หลวงพ่อก็ทำด้วยตัวเองคนเดียวในทุกขั้นตอน ขณะทำก็บริกรรมคาถาและปลุกเสกไปพร้อมกันด้วย พระอาจารย์บุญมีเล่าเสริมอีกว่าเคยเห็นแม้กระทั่ง อุปกรณ์สูบเป่าลมเข้าเตาหลอมเพื่อให้ถ่านไฟลุกแดง หลวงพ่อก็เป็นคนคิดประดิษฐ์ขึ้นมาใช้เอง ท่านจำได้ว่าเป็นชนิดสูบเดี่ยวแบบนอน ถุงลมทำด้วยหนังควายเผือกทำเป็นถุงลมอย่างหนาและเหนียวมาก เย็บอย่างดีไม่ให้มีรูรั่ว ภายในมีลูกสูบสำหรับอัดลมและมีรูเล็กๆ สำหรับพ่นลมออกจากถุงเข้าสู่เตาหลอม เวลาจะใช้ก็ขึ้นไปนั่งบนถุงลมและใช้ก้นกดน้ำหนักลงไปเป็นจังหวะเพื่อให้ลมดันออกมา หลวงพ่อเป็นช่างฝีมือดีมากคิดประดิษฐ์สิ่งของเครื่ิองใช้ไว้ใช้เอง เช่น หลวงพ่อทำกระเป๋าหิ้วใส่จีวรและสิ่งของเครื่องใช้ประจำตัว โดยใช้หนังควายตัดเป็นชิ้น และเย็บด้วยมือทำเป็นกระเป๋าไว้ใช้สำหรับเดินทางไปค้างคืนนอกวัด ซึ่งหลวงพ่อทำได้สวยงาม ทนทานมาก ที่ข้างกระเป๋าด้านนอกหลวงพ่อลงเลขยันต์และปลุกเสกอย่างดี ท่านใช้กระเป๋าใบนั้นอยู่หลายปีบางครั้งพระอาจารย์บุญมีก็เป็นคนช่วยถือ ทั้งลงไปกรุงเทพ ฯ หรือข้ามไปเวียงจันทน์ สปป.ลาว ท่านใช้ติดตัวตลอด จนกระทั่งท่านมรณภาพ ไม่ทราบว่ากระเป๋าใบนั้นตกไปอยู่ที่ใคร


               หลวงพ่อสังข์ ท่านมีชื่อเสียงมานานแล้วในการทำเครื่องราง ของขลัง เนื้อโลหะสัมฤทธิ์ซึ่งท่านทำได้เป็นอย่างดีไม่แพ้เนื้อผงว่านและเนื้ออื่น ๆ และก็เป็นที่ทราบกันดีในหมู่ลูกศิษย์ใกล้ชิด ดังเช่น ข้อเขียนของคุณ greenlemon ที่ได้แสดงความคิดเห็นไว้ในเรื่อง ผู้สำเร็จอภิญญา ทิพยโสต ?


                      ข้อความต่อไปนี้เป็นหลักฐานยืนยันว่า หลวงพ่อสังข์ท่านมีชื่อเสียงในการสร้างวัตถุมงคลเนื้อโลหะสัมฤทธิ์มาตั้งนานแล้ว และเป็นที่ทราบกันดีในกลุ่มลูกศิษย์ใกล้ชิดที่ทันหลวงพ่อดังข้อเขียนตอนหนึ่งว่า...เมื่อสมัยหลวงพ่อสังข์ ยังอยู่ที่วัดนากันตม ผมและเพื่อน ๆ ไปกราบท่านเป็นประจำ เพื่อนแต่ละคนมีการขอความรู้จากท่านในเรื่องราวต่าง ๆ ที่สนใจ อาทิเช่น การทำเนื้อสัมฤทธิ์ ฯลฯ ...  

                     ศิษย์สุริโย ใคร่ขออนุญาต greenlemon  คัดลอกข้อความบางตอนออกมาอ้างอิงเพื่อเป็นวิทยาทานเป็นอย่างสูงครับ ดังนั้นเพื่อน ๆ ทั้งสายตรงและสายอ้อม ถ้ายังไม่มีเครื่องราง ของขลัง เนื้อโลหะสัมฤทธิ์ ให้รีบมองหามาไว้เข้าชุดของหลวงพ่อสังข์ได้แล้ว ก่อนที่ราคาจะไปไกลจนยากที่จะเอื้อมถึง 

                     ศิษย์สุริโย เคยเจอคหบดีศรีสะเกษท่านหนึ่ง ท่านสะสมพระโคโพธิสัตว์ของหลวงพ่อสังข์อยู่หลายชิ้น มีครบทุกพิมพ์ หนึ่งในนั้นเป็นพระโคโลหะเนื้อสัมฤทธิ์พิมพ์ใหญ่ ท่านหวงยิ่งกว่าพระโคเนื้อผงว่านยา เนื่องจากท่านเป็นผู้ศึกษาศาสตร์ของการสร้างเครื่องราง ของขลัง เนื้อโลหะสัมฤทธิ์อย่างจริงจัง และท่านมีความรู้เรื่องการสร้างเครื่องรางเนื้อโลหะสัมฤทธิ์ของหลวงพ่อสังข์อย่างลึกซึ้ง โดยศึกษาจากจากศิษย์ผู้รับใช้ไกล้ชิดหลวงพ่อสังข์ขณะที่ท่านยังอยู่ ซึ่งศิษย์ผู้นี้เคยรู้ เคยเห็น เคยเป็นลูกมือในการสร้าง ต่อมาหลวงพ่อสังข์ได้มอบพระโคเนื้อโลหะสัมฤทธิ์ให้เป็นกรณีพิเศษเพื่อเป็นการตอบแทนก่อนที่ท่านจะมรณภาพ ต่อมาพระโคองค์นี้ตกมาอยู่กับคหบดีท่านนี้ ทำให้ท่านหวงเป็นพิเศษและไม่ยอมเปิดราคา แม้แต่ขอดูองค์จริงก็ยังยาก






                     ศิษย์สุริโย ใคร่ขอกราบคารวะ ท่านพระครูอุดมวรเวท(หลวงพ่อสังข์  สุริโย) ด้วยความเคารพและนับถือศรัทธายิ่ง