วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2560

พระฤาษีปิดตา


                   พระฤาษีปิดตา เนื้อโลหะผสม สร้างและปลุกเสกโดย พระครูอุดมวรเวท(หลวงพ่อสังข์  สุริโย) วัดนากันตม ตำบลสังเม็ก อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ องค์พระฤาษีนั่งขัดสมาธิเพชรบนฐานรูปไข่ ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดตาซ้ายขวา ปรากฎยันต์อุณาโลมหัวยันต์ม้วนกลมลากเส้นยาวขึ้นไปด้านบนตั้งแต่หน้าท้องบริเวณสะดือ เส้นยันต์หยัก 3 หยัก อันแทน มะ อะ อุ ปลายเส้นยันต์ยาวขึ้นไปจรดใบหน้า


                 ด้านหลัง  ปรากฎยันต์ เฑาะว์ขัดสมาธิใหญ่ ซึ่งเป็นยันต์ประจำตัวของหลวงพ่อสังข์ อยู่เต็มแผ่นหลัง ใต้ลงมาปรากฎยันต์คาถา พุท ธะ สัง มิ ซึ่งเป็นคาถายอดศีล หรือหัวใจพระตรัยสรณาคม อยู่ชัดเจน เชื่อกันว่าคาถายอดศีล ดีทางด้าน เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ ค้าขาย แคล้วคลาด ปลอดภัย ส่วนทางด้านป้องกันภัย แคล้วคลาด และคงกระพันก็เด่นเช่นกัน


                     ดูด้านข้างแล้ว จะสังเกตุเห็นว่าเป็นการหล่อพระเนื้อโลหะแบบโบราณซึ่งมีการเรียกชื่อการสร้างพระรูปหล่อแบบนี้เป็นการเฉพาะว่า "พระพิมพ์เบ้าทุบ"เข้าใจว่าเป็นโลหะผสมเนื้อสัมฤทธิ์ชนิดใด ชนิดหนึ่ง เนื่องจาก หลวงพ่อสังข์ท่านเชี่ยวชาญทางด้านการสร้างพระเนื้อโลหะชนิดต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน


                 ธรรมชาติ ของการหล่อพระแบบโบราณพิมพ์เบ้าทุบอีกอย่างหนึ่งก็คือ คราบดินขี้เบ้าบางส่วนที่ยังหลงเหลืออยู่ที่ของเลียนแบบยังทำไม่ได้


                    เสน่ห์ของการหล่อแบบโบราณก็คือ รอยตะไบตกแต่งองค์พระด้านข้างเพื่อลบรอยตะเข็บ ยุคปัจจุบันจะไม่มีรอยตะไบแบบนี้ให้เห็น


                   เอกลักษณ์ที่บ่งชี้ว่าเป็นรูปเคารพพระฤาษีของพระพิมพ์นี้ก็คือ ผมยาวมุ่นเป็นมวย เกล้าขมวดมัดไว้เป็นจุกกลางกะหม่อม


                      ที่รอบลำคอ สรวมประคำเส้นใหญ่ที่นำเมล็ดรุทรักษะ (Rudraksha)หรือน้ำตาแห่งพระศิวะ ตามตำราบอกว่าจะต้องมีจำนวน 101 เม็ด มาร้อยทำเป็นสร้อยประคำคอ


                   ที่หูร้อยประคำเมล็ดรุทรักษะ ตามตำราบอกว่ามีจำนวน 6 เม็ด ร้อยไว้แทนต่างหูทั้งสองข้าง


                   ที่ข้อมือคล้องสร้อยประคำที่ร้อยด้วยเมล็ดรุทรักษะ ตามตำราบอกว่ามีจำนวน 11 เม็ด ทำเป็นประคำมือทั้งสองข้าง ซ้าย ขวา


                      ด้านหลัง ปรากฎสร้อยประคำคล้องไว้รอบบริเวณลำคอชัดเจน


                    ส่วนที่แขนสรวมสร้อยประคำที่ร้อยด้วยเมล็ดรุทรักษะ  ตามตำราบอกว่ามีจำนวน 11 เม็ด ทำเป็นประคำแขนทั้งสองข้างซ้าย ขวาเช่นกัน


                   สุดท้าย บั้นเอวร้อยเมล็ดรุทรักษะ ตามตำราบอกว่ามีจำนวน 11 เม็ด พันไว้รอบเอวบริเวณท้องด้านหน้า
           
                  
                       ใต้ฐานกลม คล้ายรูปไข่ เจาะรูไว้ฝังกริ่ง เขย่าดูเสียงดังกังวาล 
                       พระฤาษี นั่งขัดสมาธิเพชร ยกมือทั้งสองข้างปิดตานั้น เชื่อกันว่าเป็นท่านั่งของพระฤาษีที่เข้านิโรธสกรรม คือเป็นการนั่งนิ่ง ๆ เข้าฌาณทำสมาธิไม่ไหวติงหรือขยับไปไหนจนกว่าจะถึงระยะเวลาที่กำหนด เพื่อเป็นพุทธบูชา ส่วนจำนวนวันที่เข้านิโรธนั้น แล้วแต่จะกำหนด เช่น
                   1.  เข้านิโรธสกรรม   3   วัน   เป็นการบูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
                   2.  เข้านิโรธสกรรม   5   วัน   เป็นการบูชาพระพุทธเจ้า  5 พระองค์ คือ 
                       2.1  พระกกุสันธะสัมมาสัมพุทธเจ้า
                       2.2  พระโกนาคมสัมมาสัมพุทธเจ้า
                       2.3  พระกัสสปะสัมมาสัมพุทธเจ้า
                       2.4  พระศรีศากยมุนีโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า
                       2.5  พระศรีอริยเมตไตรยสัมพุทธเจ้า 
                  3. เข้านิโรธสกรรม 7 วัน เป็นการบูชาพระอภิธรรม 7 คัมภีร์ หรือหัวใจพระอภิธรรม สัง วิ ทา ปุ กะ ยะ ปะ เชื่อกันว่าก่อให้เกิดอานิสงส์ดังนี้
                       3.1 โบราณใช้เป็นคาถาปลุกเสกสีผึ้งในด้านเมตตามหาเสน่ห์
                       3.2  หากสวดได้ 7 ปีเมื่อสิ้นชีวิตลงร่างจะไม่เน่าเปื่อย
                       3.3  หากสวดให้ผู้ป่วยฟังจะหายป่วยได้เร็ว หากผู้ป่วยหมดบุญ(อายุ)จะไปสบาย
                       3.4  พระเกจิอาจารย์ใช้สวดสะเดาะเคราะห์ ต่อดวงชะตาราศี
                       3.5  เป็นพระคาถาที่ป้องกันสิ่งอัปมงคลและภูตผีปีศาจ
                       3.6  สวดสาธยายเทวดาชอบฟัง หลวงปู่ชอบ ฐานสโม เป็นพระที่เทวดารักมากวัดป่าสัมมานุสรณ์ จ.เลย บอกว่า”มนต์บทนี้สวดในใจเทวดาก็มาฟัง”

                 4. เข้านิโรธสกรรม 9 วัน เป็นการบูชาพระนวโลกุตรธรรม 9 ประการ เพื่ออานิสงส์ให้หลุดพ้นจากโลกิยะ ไม่เกี่ยวข้องกับ กาม ตัณหา ทิฏฐิ อวิชชา อีกต่อไป ซึ่งเป็นธรรมขั้นสูงสุดหรือธรรมแห่งความหลุดพ้น ได้แก่ธรรม 9 ประการ คือ
                       4.1  อริยมรรค 4
                       4.2  อริยผล 4
                       4.3  นิพพาน 1
                ส่วนการที่พระฤาษีสรวมประคำที่ทำด้วยเมล็ดรุทรักษะไว้ที่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายนั้นเชื่อกันว่าไม้รุทรากษะ เป็นไม้มงคล ส่วนเมล็ดรุทรักษะนั้น เป็นเมล็ดผลไม้ที่ทรงโปรดแห่งพระศิวะเทพ เป็นสิ่งที่นำความศักดิ์สิทธิ์ ขับไล่บาปทั้งหมดได้ด้วยการเห็น ได้สัมผัส และได้สรวมลูกประคำ เนื่องจากมีความเชื่อว่า ไม่มีพวงมาลัยหรือสร้อยคออื่นใด ที่จะนำความเป็นสิริมงคลและให้ความสำเร็จสมประสงค์ทุกอย่างเท่ากับการสรวมใส่เมล็ดรุทรากษะ
                        อานิสงส์จากการสรวมใส่เมล็ดรุทรักษะ มีดังนี้
                            1. ป้องกันมิให้ ไสยเวทย์ ภูตผี วิญญาณร้าย มารบกวน หรือรังควาญ
                            2. เมื่อเสียชีวิตลงในขณะที่สวมใส่รุทรากษะจะไม่ต้องได้รับการคร่ากุม หรือจับกุมโดยยมทูต เพื่อไปรับโทษในนรก
                            3. ทำให้มีเรื่องเสียใจหรือเศร้าหมองน้อยลง เสียน้ำตาน้อยลง และหากเมล็ดรุทรากษะยิ่งมีขนาดเล็กลงเท่าใด ก็จะยิ่งจะทำให้เสียน้ำตาน้อยลงเท่านั้น
                            4. สามารถรักษาสุขภาพ ให้ดีและแข็งแรงได้ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคที่ ทางการแพทย์ไม่สามารถรักษาให้หายเด็ดขาดหรือให้ข้อสรุปที่ชัดเจนได้
                       
 

                       ศิษย์สุริโย ใคร่ขอกราบคาระวะ ท่านพระครูอุดมวรเวท(หลวงพ่อสังข์  สุริโย) สุดยอดเกจิอาจารย์สายไสยเวทย์แห่งแดนอีสานใต้ที่สามารถใช้ภูมิปัญญาสร้างสรรค์ศิลปะโดยการออกแบบเอง แกะบล็อคเอง และปลุกเสกเองสร้างรูปเคารพพระฤาษีปิดตาสรวมใส่เมล็ดรุทรักษะตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างลงตัวและงดงามยิ่งนัก