วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2558

ผ้ายันต์เขียนมือ


                      ผ้ายันต์แดง เขียนมือ หลวงพ่อสังข์  สุริโย วัดนากันตม ตำบลสังเม็ก อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ผ้ายันต์รุ่นนี้ หลวงพ่อใช้ปากกาหมึกสีดำเขียนยันต์ลงบนผ้าแดงซึ่งตีกรอบสี่เหลี่ยมใหญ่ซ้อนกันสองชั้น ภายในกรอบหลวงพ่อยังแบ่งซอยออกเป็นกรอบสี่เหลี่ยมเล็กอีกจำนวน 25 ช่อง หลวงพ่อเขียนทั้งยันต์ที่เป็นตัวอักขระและเลขยันต์ ลงไปจนเต็มทั้ง 25 ช่อง ส่วนกรอบใหญ่ชั้นนอกหลวงพ่อเขียนยันต์กำกับไว้ทั้ง 4 มุม ส่วนหัวเขียนยันต์อักษรธรรมไว้ 2 ตัว ขนาดของผ้ายันต์ ประมาณ 8  X 12 นิ้ว



                 ผ้ายันต์ผืนนี้ ลูกศิษย์ได้นำไปใส่กรอบกระจกไว้บูชาที่ร้านกระจก เมืองทอง ถนนเสริมราษฏร์ บ้านบก อำเภอกันทรลักษ์ ปัจจุบันไม่ทราบว่าร้านกระจกนี้ ยังคงดำเนินกิจการอยู่หรือไม่



                       ประวัติการสร้างผ้ายันต์เขียนมือรุ่นนี้ เล่ากันว่าครั้งหนึ่ง ประมาณปี พ.ศ.2510 กว่าๆ ได้มีตำรวจชั้นประทวนยศจ่าสิบตำรวจตรีท่านหนึ่ง เป็นชาวอำเภอเมืองศรีสะเกษ บวชเรียนเป็นมหาเก่าชื่อจุมพลจำนามสกุลไม่ได้ สึกออกมาสมัครเป็นตำรวจ พอสอบเป็นร้อยตำรวจตรีได้ก็อายุมากแล้ว กรมตำรวจส่งไปอยู่ สภอ.กันทรลักษ์ นายตำรวจท่านนี้ปฏิบัติหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ได้เป็นอย่างดีเยี่ยม มีมนุษยสัมพันธ์ดีมาก ว่างเว้นจากการงานในวันหยุด ก็จะออกเยี่ยมเยียนพูดคุยพบปะกับพ่อค้า ประชาชนชาวอำเภอกันทรลักษ์ อยู่บ่อยครั้ง ทำให้ชาวกันทรลักษ์รู้จักและคุ้นเคยกับหมวดจุมพลกันเป็นอย่างดี ต่อมาที่กันทรลักษ์ เกิดมีคดีทำร้ายร่างกายรวมทั้งมีการปล้นฆ่าเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง หมวดจุมพลให้ลูกน้องสืบสวนทราบว่า ผู้ก่อคดีรายนี้ไม่ทราบชื่อเป็นคนจังหวัดอื่นแถวๆ ภาคกลางตอนบน ย้ายมาอยู่กันทรลักษ์เพราะว่าไปได้เมียที่นั่น เจ้าหมอนี่เป็นคนมีวิชาอาคมแต่มีนิสัยไม่ดี เป็นนักเลงไม่กลัวใคร วันหนึ่ง หมวดจุมพลออกไปกับลูกน้องเพียง 2 คน ที่บ้านของคนร้ายซึ่งอยู่นอกหมู่บ้าน ไม่ได้พกอาวุธไปด้วย ด้วยความมั่นใจจึงชล่าใจ กะว่าจะใช้ฝีปากเจรจาดีๆ ให้เข้ามอบตัวกับตำรวจ แต่เจ้านี่ร้ายมากยอมเจรจาพูดคุยด้วยดีเหมือนไม่มีอะไร แต่เมื่อหมวดจุมพลเผลอมันใช้ขวานจามลงไปที่กลางหลังและศรีษะ ทำให้หมวดจุมพลล้มทั้งยืน เสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกน้องไม่มีอาวุธไม่กล้าเข้าช่วยได้แต่วิ่งกลับไปที่สถานีตำรวจ ไปบอกให้ผู้บังคับบัญชาส่งกำลังพร้อมอาวุธครบมือไปช่วย เมื่อกลับไปอีกครั้ง ปรากฏว่า เจ้าผู้ร้ายเกิดอาการคลุ้มคลั่งใช้เชือกมัดศพหมวดจุมพล แล้วผูกกับควายให้ลากออกไปยังป่าไผ่ข้างบ้าน เมื่อกำลังตำรวจไปถึงผู้ร้ายขัดขืนไม่ยอมให้ตำรวจเข้าใกล้ศพพร้อมสู้ตาย จึงเกิดการปะทะกันด้วยอาวุธปืนเพื่อจะแย่งเอาศพของหมวดจุมพลออกมา ในที่สุดผู้ร้ายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ตำรวจจึงสามารถนำศพของหมวดจุมพลออกมาประกอบพิธีทางศาสนาได้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ปัจจุบันยังคงอยู่ในความทรงจำของชาวอำเภอกันทรลักษ์รุ่นเก่าหลายคน

                       หลังจากนั้นเป็นต้นมาชาวกันทรลักษ์ทั้งอำเภอก็เกิดความหวาดกลัวระส่ำระสายและพากันเล่าลือถึงความเฮี้ยนของวิญญาณหมวดจุมพล โดยเฉพาะที่โรงพักตอนกลางคืนตำรวจพากันเห็นหมวดจุมพลไปนั่งเข้าเวรกลางดึกอยู่่บ่อย ๆ และเห็นกันหลายคน บางครั้งชาวบ้านก็เห็นวิญญาณหมวดจุมพลแต่งเครื่องแบบเต็มยศออกเดินตรวจตรารักษาความสงบเรียบร้อยตามถนนหนทางในตลาดกันทรลักษ์ตอนดึก ๆ อยู่บ่อยครั้ง นานเข้าทำให้ผู้คนไม่กล้าออกจากบ้านไปทำกิจธุระจำเป็นในตอนกลางคืน เพราะพากันขวัญผวากลัวว่าจะเจอกับวิญญาณหมวดจุมพลเข้าให้ ทางบ้านเมืองและคณะสงฆ์จึงได้ปรึกษากันว่าให้ทำบุญใหญ่ในตลาดอำเภอกันทรลักษ์ เพื่อป้องกันมิให้วิญญาณและสิ่งชั่วร้ายเข้ามาในเขตเมืองกันทรลักษ์ และสร้างขวัญกำลังใจให้ชาวบ้าน จึงได้นิมนต์หลวงพ่อสังข์  สุริโย วัดนากันตม และพระสงฆ์ในเขตอำเภอไปทำการสวดมนต์ปัดรังควาญเพื่อความเป็นศิริมงคลในตลาดอำเภอกันทรลักษ์ โดยเฉพาะหลวงพ่อสังข์ ได้ทำการขุดหลุมฝังอาถรรพ์เพื่อป้องกันปีศาจร้ายและวิญญาณต่างๆรอบเมืองกันทรลักษ์ จำนวนถึง 4 จุด ตามทิศต่าง ๆ 4 ทิศ ส่วนชาวบ้านร้านตลาดหลวงพ่อก็ได้เขียนผ้ายันต์แดงด้วยลายมือมือของหลวงพ่อเองตามภาพ และทำการปลุกเสกเดี่ยวให้เป็นอย่างดี โดยหลวงพ่อสั่งให้เอาไปติดไว้ตามบ้านอยู่อาศัย อาคาร ร้านตลาด เพื่อความเป็นศิริมงคลและป้องกันภัย จำนวนหลายร้อยผืน ทำให้ในคราวนั้น หลวงพ่อสังข์ ได้ปัจจัยจากการทำบุญของชาวบ้านไปสร้างโบสถ์และศาลาเป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นก็ไม่มีใครเคยเห็นวิญญาณของหมวดจุมพลอีกเลย และอำเภอกันทรลักษ์ก็เกิดความสงบ ร่มเย็น เป็นสุข และเจริญรุ่งเรืองตั้งแต่นั้นเป็นต้น
มา                                                                                                      
                       ขอขอบคุณมากสำหรับผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ที่ได้อนุญาตให้ถ่ายภาพออกเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานครับ