วันเสาร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2554

ตะกรุดโทน ( สิงห์ทอง ) ห่วงคู่


                   ตะกรุดโทน  หลวงพ่อสังข์  ขนาดความยาว 4 นิ้ว หนาเกือบ 1 นิ้ว



                      ตามประวัติ เล่ากันมาว่า หลวงพ่อ ลงยันต์อักขระในแผ่นตะกั่ว จำนวน 108 แผ่น แต่ละแผ่นลงยันต์แต่ละแบบไม่เหมือนกัน เช่น อิติปิโส 8 ทิศ อิติปิโสตรึงไตรภพ อิติปิโสนารายณ์คลายจักร อิติปิโสเดินหน้า อิติปิโสถอยหลัง อิติปิโสย้ายรูป ฯ ล ฯ เป็นต้น จนครบ 108 แผ่น  เสร็จแล้ว นำมาใส่เบ้าหลอมด้วยไฟอาคมแล้วเทใส่แม่พิมพ์ เป็นแท่งตะกรุดโทนแท่งเดียว ซึ่งอาจจะอนุโลมเรียกเป็น ตะกรุดโทนลบถม ก็คงได้



                   ต่อมาหลวงพ่อ ใช้แผ่นทองแดง ความกว้าง ยาว ขนาดเท่าที่ต้องการ ลงอักขระเลขยันต์ตามสูตรของหลวงพ่อ แล้วม้วนโดยใช้คาถาม้วนตะกรุด แล้วสอดตะกรุดโทนตะกั่วที่แข็งตัวเป็นแท่ง ทำเป็นกริ่งใส่เข้าไปในรูหรือไส้ตะกรุดทองแดงอีกครั้งหนึ่ง เป็นตะกรุดซ้อนตะกรุด แบบ TWO IN ONE  เขย่าดูมีเสียงดัง ลักษณะรู้สึกได้ว่ามีตะกรุดอีกดอกอยู่ข้างในชัดเจน


                  ต่อมาก่อนถักเชือก หลวงพ่อก็จะทำการพอกตะกรุดด้วยสิ่งของต่าง ๆ อีก เรียกว่า ถมตะกรุด เช่น ถมด้วย พระไตรสรณาคม สัตตโพชฌงค์ นวหรคุณ ทศพลญาณ เป็นต้น  พระโตรสรณาคม ประกอบไปด้วย ดอกพุทธรักษาเหลือง ดอกพุทธรักษาขาว ดอกพุทธรักษาแดง สัตตโพชฌงค์ ประกอบไปด้วย ใบไม้รู้นอน 7 ชนิด คือ ใบชุมแสง ใบสมิ ใบระงับ ใบหิ่งห้อย ใบผักกระเฉด ใบหญ้าใต้ใบ ใบกระถิน นวหรคุณ ได้แก่ เครื่องหอมทั้ง 9 ประกอบไปด้วย จันทร์แดง จันทร์ขาว กฤษณา กะลำพัก ขอนดอก ชะมด พิมเสน อำพันทอง น้ำมันหอม ทศพลญาณ ประกอบไปด้วย ชันนางโลมใต้ดิน เกษรศรีมหาโพธิ์ ไคลเสมา ดินสอกำบัง รังหมาร่า ผงมูลกัจจายน์ ผงปถมัง ผงตรีนิสิงเห ใบไมยราพ ดอกรักซ้อน สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ นำมาผสมเข้ากันและบดละเอียด  เสร็จแล้วนำไปพอกตะกรุดแล้วจึงทำการถักเชือก หุ้มตะกรุดทองแดง ปิดหัวท้ายเพื่อป้องกันไม่ให้ตะกรุดตะกั่วที่อยู่ด้านในหลุดออกมา และเป็นการป้องกันการสึกหรอ  พร้อมทั้งใส่ห่วงทองแดง  ซึ่งจะต้องเป็นห่วงทองแดงคู่ 2 ห่วง เพื่อให้ง่ายในการห้อยพกพา หรือ จะคาดเอวก็แล้วแต่สะดวก สุดท้าย ลงรักและจุ่มรักปิดทองเพื่อความคงทนสวยงาม  การ ถมตะกรุด ด้วยเครื่องหอมต่าง ๆ ตามที่กล่าวมา ทำให้ตะกรุดดอกนี้เมื่อนำมาดมยังคงมีกลิ่นหอม แม้ว่า จะสร้างมาไม่ต่ำกว่า 30 ปี แล้วก็ตาม


                       ลายเชือกที่หลวงพ่อถัก โดยคำบอกเล่าของ พระอาจารย์บุญมี ให้ข้อมูลว่า หลวงพ่อสังข์ ท่านถักได้ทุกรูปแบบ จะเอาแบบลายตรง ๆ ลงมา หรือลายทะแยงซ้าย ทะแยงขวา ได้หมด ส่วนห่วงคู่นั้น จะต้องเป็นห่วงทองแดงแบบหนาอย่างนี้ ดอกนี้เป็นแบบห่วงคู่ บิดเกลียวสองรอบ( บิดเกลียวห่วงหนึ่งรอบก็มี แต่ส่วนใหญ่ หลวงพ่อจะบิดเกลียว สองรอบ ) ดอกนี้ เมื่อหลวงพ่อถักเชือกเสร็จ และ จุ่มรักแล้ว หลวงพ่อยังทำพิเศษโดยการปิดทองตะกรุดอย่างหนาเหลืองอร่ามทั้งดอก ผู้เขียนจึงตั้งชื่อ ตะกรุด ดอกนี้ว่า (สิงห์ทอง)


                                     ส่วนพุทธคุณนั้น เด่นทางด้านคุ้มครอง ป้องกันภัย อันตรายสารพัดชนิด เป็นมหาอุด แคล้วคลาด อยู่ยงคงกระพันชาตรี มีฤทธิเดชอำนาจราชศักดิ์ ทำให้ศรัตรูเกรงกลัวและครั่นคร้ามเกรงขามในเดชานุภาพ อีกทั้ง เป็นเสน่ห์ เมตตามหานิยม จะปรารถนาสิ่งใดท่านให้อธิษฐานจิตตามความต้องการ จะสัมฤทธิผลทุกประการ ถ้าบูชาไว้กับบ้าน จะสามารถคุ้มครองป้องกันความวิบัติและภัยอันตรายต่าง ๆ เช่น อัคคีภัย วาตภัย โจรภัย ภูตผีปีศาจและอุบาทว์เสนียดจัญไรทั้งปวง....เพราะฉะนั้น เพื่อน ๆ ท่านใดที่สนใจ เครื่องราง ของขลัง ของหลวงพ่อสังข์ รีบหาไว้ซะ ตั้งแต่บัดนี้ เพราะต่อไปจะหายาก และ ราคาจะไปไกลแน่นอน...เหมือนดังคำทำนายของ พระอาจารย์บุญมี ปภัสสโร เขียนไว้ในหนังสือ พิธีชีวิต ที่พิมพ์เป็นที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ ของหลวงพ่อ ข้อความตอนหนึ่งว่า .......วัตถุมงคลทุกอย่างท่านจะทำเองปลุกเสกเอง ทำได้สวยงาม ถูกต้อง ตามตำหรับตำรา ทำสิ่งแปลก ๆ ยากที่จะหาเกจิอาจารย์อื่นทำได้เสมอเหมือน วัตถุมงคลของท่าน ใครได้รับไปคงจะทราบในความสำคัญและสัมผัสได้ในความศักดิ์สิทธิ์ ถ้าท่านไม่ประมาท มีศรัทธามั่นคง วัตถุมงคลของท่าน ต่อไป จะหาค่า(บ่)มิได้ เมื่อท่านมีแล้วเก็บรักษาไว้ให้ดี จะนำมงคลมาสู่ท่าน.....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น