วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ผู้สำเร็จอภิญญา ทิพยโสต ?



                   อภิญญา แปลว่า ความรู้ยิ่ง หมายถึงปัญญาความรู้ที่สูงเหนือกว่าปกติ เป็นความรู้พิเศษที่เกิดขึ้นจากการอบรมจิตเจริญปัญญาหรือบำเพ็ญกรรมฐาน    อภิญญาในคำวัดหมายถึงคุณสมบัติพิเศษของพระอริยบุคคลซึ่งเป็นเหตุให้มีอิทธิฤทธิ์ต่างๆ มี 6 อย่าง คือ               
               1. อิทธิวิธิ แสดงฤทธิ์ได้ เช่น ล่องหนได้ เหาะได้ ดำดินได้
               2. ทิพพโสต มีหูทิพย์
               3. เจโตปริยญาณ กำหนดรู้ใจผู้อื่นได้
               4. ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ระลึกชาติได้
               5. ทิพพจักขุ มีตาทิพย์                                            
               6. อาสวักขยญาณ รู้การทำอาสวะให้สิ้นไป

                  อภิญญา 5 ข้อแรกเป็นของสาธารณะ (โลกียญาณ) ข้อ 6 มีเฉพาะในพระอรหันต์
                 เหตุการณ์ครั้งหนึ่งเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2535  ผู้เขียน ยังไม่เคยได้ยินชื่อเสียงและรู้จักหลวงพ่อสังข์ มาก่อน แต่พ่อค้าคหบดีท่านหนึ่ง ของเมืองศรีสะเกษ ซึ่งเป็นลูกศิษย์สายตรงของหลวงพ่อเห็นว่าผู้เขียนชอบเรื่อง เครื่องราง ของขลัง จึงได้เล่าเรื่องของหลวงพ่อสังข์ ให้ฟัง เขาเล่าว่า เข้าไปค้าขายในเขตอำเภอกันทรลักษ์ ตั้งแต่ปี 2500 เรื่อยมา ชาวกันทรลักษ์ ได้เล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์ ของหลวงพ่อสังข์ ให้ฟังหลายครั้ง จนท่านตกลงใจอยากไปพิสูจน์ให้เห็นจริง จึงชวนกัน 3 - 4 คน ไปหาหลวงพ่อ ช่วงนั้น ประมาณ ปี 2514 - 15 โดยเอารถยนต์ขับไปจนถึงวัด ออกไปตั้งแต่เช้า กว่าจะถึงก็บ่ายแก่เกือบเย็น เพราะช่วงเวลานั้นถนนหนทางยังไม่ดี ทั้งที่ระยะทางจากกันทรลักษ์ ถึงวัดประมาณสัก 10 - 20 กิโลเมตร เท่านั้น  เมื่อไปถึง เห็นหลวงพ่อ ออกมายืนรอที่ประตูกุฏิ และชี้มือมาที่รถพูดว่า "คันแรกที่เข้ามาถึงวัด" หลังจากนั้นก็พูดคุยกับหลวงพ่อเป็นเวลานาน  ต่อมาหลวงพ่อ ได้ลงกระหม่อมให้ หลวงพ่อบอกว่า เป็นน้ำมันแก้ว ทำมาจากว่านยา 108 ชนิด ซึ่งหลวงพ่อเคี่ยวจนใส และ ปลุกเสกเป็นเวลานานจนเดือด ใช้ในทาง ค้าขาย เมตตามหานิยม  แคล้วคลาด และ ยอดเยี่ยมทางคงกระพัน  หลังจากกลับมาแล้ว พ่อค้าท่านนั้น ท่านสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น การค้าขายดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การเจรจาตกลงเรื่องราวต่าง ๆ คล่องตัว โดยเฉพาะ แคล้วคลาดจากอุบัติเหตุ และ อุบัติภัยหลายครั้ง

                  ต่อมา ได้มีผู้กำกับเมืองศรีสะเกษท่านหนึ่ง ย้ายมารับตำแหน่งใหม่ บังเอิญพ่อค้าท่านนั้นมีโอกาสได้ไปรับ ขณะนั่งรับประทานอาหาร ผกก. คนใหม่พูดขึ้นว่า ท่านชอบพระ อยากให้พาไปกราบพระเกจิอาจารย์ ที่เห็นว่ามีอาคมขลัง ของเมืองศรีสะเกษ เพื่อความเป็นศิริมงคล พ่อค้าท่านนั้น จึงแนะนำให้ไปกราบหลวงพ่อสังข์ เพื่อให้ลงกระหม่อมให้ เพราะเคยได้สัมผัสมาแล้วเห็นว่า หลวงพ่อสังข์ มีวิชาอาคมสูง และ ศักดิ์สิทธิ์จริง ผกก.ท่านตกลงที่จะไป และ ไม่ลืมที่จะชวนเพื่อน ๆ  ผกก.จากที่อื่นที่มาส่งท่านไปด้วยกัน  มี ผกก.ท่านหนึ่งพูดขึ้นมาพอได้ยินทั่วกันว่า " เก่งจริงหรือ หลวงพ่อสังข์ ของเมืองศรีสะเกษ น่ะ เพราะตัวเขาย้ายมาแล้วหลายแห่งเกือบทั่วทุกภาคของประเทศ มีเกจิอาจารย์ที่เขาว่าดังที่ไหน เขาไปกราบมาหมดแล้ว และ ที่กระหม่อมของเขานี้ เขาลงมาแล้ว 7 อาจารย์ "  แต่พ่อค้าท่านก็คะยั้นคะยอบอกว่า ไหน ๆ ก็มาแล้ว ก็ไปเสียหน่อยไม่ให้เสียเที่ยว ในที่สุดเพื่อน ผกก.ท่านนั้นก็ตกลงไป  เมื่อไปถึง พ่อค้าท่านก็แนะนำว่า ผกก. ย้ายมาใหม่ กับเพื่อน ๆ ที่มาส่ง อยากให้หลวงพ่อ ลงกระหม่อมให้เพื่อความเป็นศิริมงคล หลวงพ่อท่านก็ไม่ขัดศรัทธา ลงให้ทีละคน เริ่มตั้งแต่ตัวผู้กำกับที่ย้ายมา และคนอื่น ๆ โดยเรียกเข้ามาทีละคน  จนเหลือคนสุดท้าย หลวงพ่อไม่เรียก คือเพื่อนผู้กำกับผู้ที่คุยก่อนมาว่า หลวงพ่อสังข์เก่งจริงหรือนั่นแหละ   แต่ในที่สุดเขาก็คลานเข้ามาเองและกราบหลวงพ่อพร้อมกับขอให้หลวงพ่อลงกระหม่อมให้เหมือนกับคนอื่น ๆ  หลวงพ่อ ทำหน้าเฉย แล้วพูดขี้นมาว่า " ไหนว่าลงกระหม่อมกับเกจิอาจารย์เก่ง ๆ มาแล้วเกือบทั่วทุกภาคของประเทศ  ถึง 7 อาจารย์  แล้วจะมาให้อาตมาลงให้อีกทำไมเล่า "   เพื่อน  ผกก. ท่านนั้นถึงกับหน้าจ๋อย ทำหน้าไม่ถูก คงจะงงและแปลกใจมากว่า หลวงพ่อทราบได้อย่างไรเพราะพูดกันตั้งแต่อยู่ศรีสะเกษ ก่อนมาพบหลวงพ่อที่กันทรลักษ์ ตั้งหลายชั่วโมงผ่านมาแล้วอ้อนวอนอย่างไร  หลวงพ่อก็ไม่ยอมลงกระหม่อมให้ คงจะให้ลดทิฐิลงก่อน หลวงพ่อบอกว่า ถ้าศรัทธาหลวงพ่อจริงจึงค่อยมาให้หลวงพ่อลงให้วันหลัง พ่อค้าท่านนั้นซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ตลอด และได้ยินเต็มหู ถึงกับขนลุก  แปลกใจว่า หลวงพ่อทราบหรือได้ยินคำพูดต่าง ๆ นั้นได้อย่างไร เพราะว่าทุกคนก็มาพบหลวงพ่อพร้อม ๆ กัน ไม่มีทางเป็นไปได้ที่ใครจะมาแอบกระซิบหลวงพ่อให้ทราบก่อนได้เลย อีกทั้ง โทรศัพท์มือถือในสมัยนั้นไม่ต้องพูดถึง  หรือว่า หลวงพ่อ สำเร็จอภิญญา ทิพยโสต คือ มีหูทิพย์ ..........ซึ่งไม่มีใครตอบได้ และ ไม่มีใครกล้าถาม นั่นคือเรื่องที่ผู้เขียนได้ยินมา

1 ความคิดเห็น:

  1. เมื่อสมัยหลวงพ่อสังข์ ยังอยู่ที่วัดนากันตม ผมและเพื่อนๆไปกราบท่านเป็นประจำ เพื่อนแต่ละคนมีการขอความรู้จากท่านในเรื่องราวต่างๆที่สนใจ อาทิเช่นการทำเนื้อสัมฤทธิ์ ฯลฯ
    ส่วนของผมมีความสนใจเรื่องการกำหนดจิตไปที่ต่างๆ ซึ่งหลวงพ่อสังข์ได้อธิบายว่า การถอดจิตคือการนั่งสมาธิ ซึ่งในขั้นต้นต้องมีพี่เลี้ยงซึ่งมีสมาธิสูง นั่งประกบคอยดูดวงจิต ไม่ให้เตลิด เวลาไปเจอสิ่งที่น่ากลัว หลวงพ่อท่านให้ยื่นมือให่ท่าน พอท่านจับมือ สติก็วูบไม่รู้สึกตัว จนจนท่านปล่อยมือ ถึงรู้สึกงงๆ หันไปถามเพื่อนๆว่าเมื่อสักครู่ ตัวของผู้เขียนเป็นอะไร เพื่อนๆตอบว่า เห็นนั่งนิ่งๆเท่านนั้น
    นับจากนั้นมีพลังบางอย่างเกิดขึ้น คือมีสัมผัสพิเศษถึงเหตุการณ์บางอย่างล่วงหน้า
    การคาดการณ์เรื่องต่างๆค่อนข้างจะถูกต้อง นี่คือประสบการณ์ที่ได้สัมผัสจากหลวงพ่อสังข์ สุริโย

    ตอบลบ